บทที่ 10 ระบบจัดการรายการเพลงโดยการออกแบบเชิงวัตถุ


การเตรียมการ
          สิ่งแรกที่ต้องเตรียมก่อนที่จะทำใบงานนี้คือ นักศึกษาจะต้องผ่านการเขียนโปรแกรมเพื่อจัดการกับตาราง Album ในฐานข้อมูล Karaoke.mdb ก่อนซึ่งจะเป็นเนื้อหาที่ต่อยอดจากเดิม โดยที่การจัดการกับตาราง Album นั้นจะต้องสามารถ เพิ่ม  ลบ บันทึก และค้นหาด้วยฟอร์ม frmAlbumFind ก่อน


สร้างฟอร์มส่วนการติดต่อกับตาราง Song
1.      ไปที่เมนู Project เลือกคำสั่ง Add Windown Form…
2.      ตั้งชื่อฟอร์ม   frmSong.vb


3.      จะปรากฏฟอร์มใหม่ขึ้นมาในโปรเจ็ค
4.      สลับไปที่ frmMain
5.      เลือกเมนูแล้วดับเบิลคลิกที่ เมนู 2.รายการเพลง ดังภาพ


6.      จะปรากฏหน้าต่าง Code View และเมธอดสำหรับเหตุการณ์เมื่อคลิกที่เมนู 2. รายการเพลง


7.      เขียนโปรแกรมดังนี้ (คัดลอกมาจากเมธอดของเมนู 1.อัลบั้มเพลง ก็ได้)


8.      รันโปรเจ็ค จากนั้นทดลองคลิกที่เมนู 2. รายการเพลง หากมีฟอร์ม frmSong ขึ้นมาแสดงว่า ถูกต้อง !


9.      สลับไปที่ฟอร์ม frmAlbum ให้นักศึกษาคลิกที่เครื่องมือ ToolStrip1 จากนั้นคลิกขวา Copy เราจะนำไปวางที่ฟอร์ม frmSong ดังภาพ


10. เมื่อเราคัดลอกเสร็จแล้วให้สลับไปที่ฟอร์ม frmSong
11. คลิกขวาที่ฟอร์ม จากนั้นไปที่คำสั่ง Paste


12. จากนั้นออกแบบ interface ดังภาพ
     
13. นำเครื่องเมื่อ OpenFileDialog มาวางในฟอร์มเราจะใช้ในการเรีอกหน้าต่างการ Open ไฟล์


14. จากนั้นเราจะสร้างคลาส clsSong เพื่อใช้ติดต่อกับตาราง Song ในฐานข้อมูล Karaoke.mdb โดยคลิกที่เมนู Project  เลือกคำสั่ง  Add Class…
15. ตั้งชื่อคลาส   clsSong.vb


16. จะปรากฏ Code view ดังภาพ


17. Import NameSpace เพื่อนำเข้าคลาสที่ใช้จัดการกับฐานข้อมูล ดังภาพ


18. เราต้องการเรียกใช้ แอบทริบิวต์ และเมธอดที่อยู่ในคลาส ClsCommand โดยการสืบทอดคลาส


19. สร้างแอททริบิวต์ (ตัวแปร) เพื่อใช้ติดต่อรับค่าจากฟอร์ม frmSong ดังภาพ


20. สร้างเมธอด AddData สำหรับ สร้างคำสั่ง SQL เพื่อเพิ่มข้อมูลในตาราง Song


21. สร้างเมธอด UpdateData สำหรับ สร้างคำสั่ง SQL เพื่อเพิ่มข้อมูลในตาราง Song


22. สร้างเมธอด doSaveData เพื่อใช้ในการตรวจเช็คสถานะ การซ้ำกันของรหัสในตาราง Song โดยใช้เมธอด ChkReplace ตรวจสอบ หากคืนค่าเป็น Nothing แสดงว่าไม่มีรหัสที่ส่งเข้ามา ก็ให้ทำการ เรียกใช้เมธอด AddData เพื่อคืนค่าเป็น คำสั่ง SQL ในการเพิ่มข้อมูล


23. สลับไปที่ฟอร์ม frmSong


24. สร้างตัวแปรออบเจ็ค เพื่อเรียกใช้เมธอดต่างในคลาส ClsSong


25. สร้างเมธอด doWithData  เพื่อใช้เป็นแกนกลางของฟอร์มที่ใช้ในการจัดการกับฐานข้อมูล 


26. เพิ่มกลุ่มคำสั่งในการส่งค่าจากฟอร์มไปยังแอบทริบิวในคลาส clsAlbum ดังภาพ


27. สร้างเมธอด saveData  ในฟอร์มเพื่อทำการเรียกใช้เมธอด dowithData ในการการบันทึกข้อมูล (คัดลอกมา)



28. แก้ไขโค้ดคำสั่งที่ เมธอด dowithData ดังภาพ


29. กลับมาที่มุมมอง Design View ของฟอร์ม frmSong


30. จากนั้น ดับเบิลคลิกที่ ToolBarStrip


31. จากนั้นพิมพ์โครงสร้างดังนี้   (คัดลอกมา)


32. เรียกใช้เมธอด saveData จากเพื่อจากปุ่ม Save โดยแก้ไขโค้ดคำสั่งดังนี้   (คัดลอกมา)


33.
รันโปรแกรม จากนั้นทดลองกรอกข้อมูล ดังภาพ  จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Save




34. เมื่อระบบยืนยันในการบันทึกข้อมูลแล้ว ให้สลับไปดูในฐานข้อมูล karaoke.mdb




ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทที่ 11 ตอน 3 การออกแบบรายงานด้วย Crystal Report

รูปภาพ
การออกแบบรายงานด้วย Crystal Report                 จากนี้จะได้ออกแบบรายงานข้อมูลนักเรียนซึ่งเป็นภาคปฏิบัติที่จะต้องทำความเข้าใจกับวิธีการและเทคนิคต่างๆ จะได้กล่าวไว้ในเนื้อหานี้ ก่อนที่จะออกแบบรายงานใน Crystal Report จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางแผนออกแบบตัวรายงานไว้ก่อนเพื่อความรวดเร็วในการสร้าง ซึ่งสามารถออกแบบใน Ms-Word ก่อนก็ได้                 ในรายงานตัวอย่างด้านล่างนี้ผู้สอนได้ออกแบบการแสดงผลรายงานอย่างง่าย โดยการควบคุมการแสดงผลผ่าน VB.NET ซึ่งในตัวอย่างนี้จะแสดงค่า รายชื่อของนักเรียนที่มีอักษร อ ขึ้นต้นและสรุปรวมพร้อมแยกจำนวนชาย หญิง ไว้ที่ส่วนท้ายรายงาย ( Report Footer ) ในการที่จะทำความเข้าใจกับเครื่องมือและคำสั่งของ Crystal Report อาจจะต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการศึกษาบ้าง หากนักศึกษาลองสังเกตและได้ทำความเข้าใจกับตัวอย่างนี้ที่จะได้นำเสนอนี้ คงเพียงพอในระดับหนึ่งในการสร้างรายงานเพื่อแสดงผลข้อมูลในลักษณะต่างๆ ดังนั้นโปรดฝึกหัดและสังเกตการใช้งานเครื่องมือต่างๆ ไปพร้อมกัน 1.  ในแถบ Insert ให้เลือกเครื่องมือ Text Object แล้วนำมาลากวางาบนส่วนของ Report Header พร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6 กระบวนการพอลิมอร์ฟิซึม (Polymorphism)

รูปภาพ
        การพ้องรูป (Polymorphism) รากฐานของการพ้องรูป (Polymorphism) ก็คือ การถ่ายทอดคุณสมบัติ เพราะถ้าไม่มีการถ่ายทอดคุณสมบัติก็จะไม่เกิดสภาวะการพ้องรูป การถ่ายทอดคุณสมบัติเป็นเครื่องมือยืนยันได้ว่าคลาสลูกที่เกิดจากคลาสแม่เดียวกันย่อมมีคุณสมบัติเหมือนกัน Polymorphism หมายถึง การที่เราสามารถเขียนเมธอดชื่อเดียวกันให้สามารถรับพารามิเตอร์ได้หลายชนิดและการเขียนเมธอดชื่อเดียวกับคลาสที่สืบทอดมา แต่ทำงานคนละอย่างกัน โดยความหมายแล้ว poly แปลว่าหลายหรือมาก ส่วนคำว่า morphism นั้นมาจากคำว่า morph ซึ่งแปลว่ารูปร่าง เมื่อนำสองคำมารวมกันจะมีความหมายคือ การที่วัตถุสามารถมีรูปร่างได้หลากหลาย ในเนื้อหาบทนี้หากจะกล่าวเรื่องของการพ้องรูป หรือการพอลิมอร์ฟิซึมให้เข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้นคงจะเป็นเรื่องของการ  Overrides  Overridable  และ Overloads นั้นคือการที่มีเมธอดในคลาสลูกที่มีชื่อซ้ำกับเมธอดนั้นคลาสแม่ หรือ การที่เมธอดในคลาสลูกมีชื่อซ้ำกันที่มากกว่าหนึ่ง ดังนั้นกระบวนการดังกล่าวจึงถือเป็น กระบวนการพอลิมอร์ฟิซึมด้วย 1.  การโอเวอร์ไรด์เมธอด ( Overrides Method)   คือ การที่คลาสลูกสามารถมีเมธอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 11 ตอน 3 การออกแบบรายงานด้วย Crystal Report Ex2

รูปภาพ
สร้างฟิลด์ sumWoman ( 1 )  คลิกขวาที่รายการ Formula Fields จากนั้นเลือกคำสั่ง New… ( 2 )  ป้อนชื่อฟิลด์ลงไปที่ช่อง Name จากนั้นคลิกที่ปุ่ม OK ( 3 )  จะพบกับหน้าต่าง Formula Editor  จากนั้นก็พิมพ์คำสั่งในช่องสูตร ซึ่งจะใช้คำสั่งควบคุมคือ ถ้าหากฟิลด์ bname_sex มีค่าเท่ากับ 0 ก็ให้แสดงค่า 1 ออกมา if {Bname.bname_sex}=" 0" then 1    จากนั้นคลิกปุ่ม เพื่อตรวจสอบความถูกต้องหากมีกล่องข้อความแสดงคำว่า No errors found.  แสดงว่าสูตรที่ป้อนไปนั้นถูกต้องสามารถใช้งานได้  จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Save and close เพื่อปิดหน้าต่าง                 ( 4 )  จากนั้นลากฟิลด์ sumMan มาวางในส่วนของ PageFooter 24.  สร้างผลรวมของเพศชาย   โดยการคลิกขวาที่ฟิลด์  sumMan จากนั้นเลื่อนไปที่แถบ Insert แล้วเลือกคำสั่ง Summary… 25.  จะพบกับหน้าต่าง Insert Summary เลือกวิธีการคำนวณในที่นี้จะต้องการรวมค่าจึงเลือกเป็น Sum แล้วคลิกที่ปุ่ม OK ในส่วนวิธีการคำนวณสามารถเลือกวิธีการคำนวณด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ Crystal Report มีมาให้เช่นเดียวกันกับฟังก์ชั่นใน Ms Excel ดังภาพ
อ่านเพิ่มเติม